ถอดกลยุทธ์พิชิตโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานของประเทศกับ “Civil Engineering” สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

จากแผนยุทธศาสตร์ของไทยปี 2561-2580 ที่รัฐบาลมีเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในทุกด้าน ครอบคลุมตั้งแต่ การลงทุนด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ทั้งทางยกระดับ ทางมอเตอร์เวย์ หรือด้านสาธารณูปโภค อาทิ ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ รวมถึงด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และเครือข่ายโทรศัพท์ 5G เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand 4.0

ทุกวันนี้ รัฐบาลจึงทุ่มเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เช่น โครงการลงทุนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economics Corridor Development : EEC ) ที่มีการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ เช่น การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ไม่นับรวมการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์อีกหลายเส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างการเตรียมเปิดประมูล ส่งผลดีต่อภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของไทยที่มีโอกาสเข้าดำเนินโครงการต่างๆ มากขึ้น

ซีวิลเอนจีเนียริง ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธาแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์การทำงานมานานกว่า 50 ปี เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกจับตามองกับชื่อชั้นและประสบการณ์ที่ไม่เป็นสองรองใครในอุตสาหกรรม ด้วยผลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค มาแล้วกว่า 1,000 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท ที่ส่งมอบงานคุณภาพที่ได้มาตรฐานและได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานราชการและเอกชนเป็นอย่างดี

น่าสนใจว่า กว่าซีวิลเอนจีเนียริงจะเติบโต แข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ จุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2509 เริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียนแค่ 2 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ประสบกับปัญหาหนักในปี พ.ศ. 2540 จากพิษวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ธุรกิจเกือบไปไม่รอด แต่สามารถฟันฝ่ามาได้ และมีรายได้สูงถึง 4,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินงานที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาธุรกิจตลอดมา

ปัจจุบันซีวิลเอนจีเนียริง มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท และไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่ผู้รับเหมาก่อสร้างเท่านั้น แต่เป็นนักบริหารโครงการก่อสร้าง (Construction Service Provider) ที่เข้าถึงความต้องการของผู้ว่าจ้างเป็นอย่างดี ซึ่งข้อได้เปรียบที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น คือการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ ภายใต้การบริหารของคนรุ่นใหม่ ‘ปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข’ ทายาททางธุรกิจรุ่นที่ 3 ผู้รับไม้ต่อเข้ามานั่งจัดการธุรกิจ มองเห็นความเป็นไปได้ที่จะบริหารธุรกิจให้เกิดการเติบโต

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกลยุทธ์ที่บริษัทฯ สร้างธุรกิจให้อยู่เหนือคู่แข่ง คือ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้บริหารและได้นำแนวคิดการบริหารงานมาผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีก่อสร้างที่ทันสมัยและบริหารจัดการด้าน Supply Chain ที่ครอบคลุมถึงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ได้แก่ การเป็นเจ้าของประทานบัตรเหมืองหิน โรงงานแอสฟัลท์ติก โรงงานคอนกรีต โรงผลิตชิ้นส่วนคอสะพานสำเร็จรูป พร้อมศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร เพื่อให้พร้อมต่อการสนับสนุนโครงการก่อสร้างและการวางแผนการดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและนำมาซึ่งความสำเร็จร่วมกัน

เพียงพลิกมุมคิดและลงมือปฏิบัติ ทำให้ CIVIL มีการดำเนินโครงการที่เป็นโปรเจกต์ระดับประเทศ ซึ่งมีเคสความสำเร็จที่เป็นผลงานการันตีความเป็นมืออาชีพ คือ โครงการก่อสร้าง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา โดยสามารถส่งมอบงานเร็วกว่ากำหนดถึง 9 เดือน จากการที่เป็นบริษัทขนาดกลาง มีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง ทำให้สามารถเคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานได้อย่างรวดเร็วเกิด Economy of Speed

นอกจากนั้นซีวิลเอนจีเนียริงยังได้เป็นผู้รับเหมารายแรกของประเทศไทยที่ได้รับโปรเจกต์ใหญ่ ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รวมถึงยังเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษกับหน่วยงานราชการ ที่มีงบประมาณปีละหลายแสนล้านบาท ด้วยคุณสมบัติที่มีครบตามระเบียบข้อบังคับ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อสร้างโปรเจกต์ได้อย่างมั่นคง ปลอดภัยเสมอมา

วิสัยทัศน์ทีมผู้บริหารที่มีความเข้าใจต่อตลาดธุรกิจนี้เป็นอย่างดี สร้างจุดแข็งที่เป็นข้อได้เปรียบระหว่างคู่แข่งและมีแนวทางการพัฒนาตนเองอย่างไร้ขีดจำกัด สอดรับกับปณิธานในการทำหน้าที่ “ผู้สร้าง” และส่งมอบโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของผู้คน ที่ “ซีวิลเอนจีเนียริง” ยึดมั่นตลอดมา…

Info-Advertorial (Marketeer Online)

Website : https://marketeeronline.co/archives/146090

Social : https://www.facebook.com/110111112374327/posts/2942836465768430/

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : https://www.civilengineering.co.th/


ย้อนกลับ